|
|
สรุปการประชุม เรื่องยาสูตรของ PSEUDOEPHEDRINE | |
สรุปการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการการป้องกันการรั่วไหล ของPSEUDOEPHEDRINEไปสู่ตลาดมืด กองควบคุมวัตถุเสพติด ร่วมกับกองควบคุมยา สำนักงานอาหารและยาได้จัดประชุมเพื่อกำหนดมาตรการการป้องกันการรั่วไหลของ Pseudoephedrine ไปสู่ตลาดมืดขึ้นเมื่อวันที่ 15/08/2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการผลิต นำเข้า ส่งออกและผู้แทนจำหน่ายยานี้ทั้งสูตรเดี่ยวและสูตรผสมทราบถึงสถานการณ์ และกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการรั่วไหล และยังสามารถมียานี้ใช้ทางการแพทย์อย่างทั่วถึง การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาPseudoephedrine จัดอยู่ในกฎหมายเกี่ยวกับความผิดด้านยาเสพติดและมีโทษหนัก ได้แก่จำคุก ปรับ ยึดทรัพย์ตามพรบ. ยาเสพติด เนื่องจากขณะนี้มีขบวนการที่นำยานี้ไปผลิตเป็นยาบ้า มีการจับกุมได้หลายครั้งในหลายท้องที่ และพบมีการสอดไส้ในสินค้าเช่น เฟอร์นิเจอร์ รูปหล่อ ceramicส่งออกไปนอกประเทศและพบเป็นยาที่ผลิตในไทยในปริมาณครั้งละมากๆโดยการกว้านซื้อทั้งจากคลินิก โรงพยาบาล ร้านขายยา แล้วนำไปรวมส่งออกโดยส่วนใหญ่จะส่งไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน ฮ่องกง ออสเตรเลีย เมกซิโก และสหรัฐ ในประเทศเมกซิโก มีการปล้นฆ่าเพื่อชิงวัตถุดิบ และเมกซิโกจึงยกเลิกทะเบียนตำรับและการผลิต นำเข้าส่งออกซึ่งยาที่สูตรนี้หรือสูตรผสมแล้ว สำหรับในประเทศไทย มีการนำสั่งเข้าวัตถุดิบPseudoephedrine จากอินเดียและจีนโดยกองควบคุมวัตถุเสพติด อย. เท่านั้นและมีการควบคุมโควตาการผลิตอย่างเคร่งครัด การนำpseudoephedrineไปผลิต สูตรเดี่ยว มี 4 บริษัท 10 ตำรับ ผลิตในนามอย. และขึ้นทะเบียนเป็น วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 มีจำหน่ายเฉพาะสถานพยาบาล สูตรผสม มี 63 บริษัท 224 ตำรับ ขึ้นทะเบียนเป็นยาอันตราย ซึ่งจำหน่าย 91% ในร้านยา 2% คลินิก 1% โรงพยาบาลเอกชน 6% โรงพยาบาลรัฐบาล การดูแลการใช้ยาสูตรเดี่ยวในการกำกับดูแลของกองวัตถุเสพติด กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศยกเลิกการอนุญาตให้แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ มีวัตถุออกฤทธิ์ประเภท2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ต้องขออนุญาตตามมาตรา 62 ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 23 พฤษจิกายน 2551 เป็นต้นไป ซึ่งเท่ากับแพทย์ ทันตแพทย์และสัตวแพทย์ รวมทั้งสถานพยาบาล คลินิก และโรงพยาบาลต้องขออนุญาตเพิ่มในการครอบครองและจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และต้องทำบัญชีเพื่อตรวจสอบ สำหรับแนวทางการดูแลควบคุมยาสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมยานี้ อยู่ในการกำกับดูแลของกองควบคุมยาและขึ้นทะเบียนเป็นยาอันตราย มีทั้งหมด 240 ตำรับ นำเข้า 16 ตำรับและผลิต 224 ตำรับมีมูลค่ารวม 600 ล้านบาทต่อปี ตาม พรบ.ยา 2510ซึ่งยังมีผลบังคับใช้ 1. ห้ามผู้รับอนุญาตขายยาอันตรายขณะที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ 2. ห้ามขายยาอันตรายในร้านขย. 2 3. ผู้รับอนุญาตต้องทำบัญชีการซื้อ-ขาย 4. เภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการต้องควบคุมการทำบัญชีการซื้อการขายให้ถูกต้อง คำถามที่พบบ่อย ขายยาปริมาณมากๆให้กับผู้ชื้อที่ไม่ใช่ผู้รับอนุญาตขายยาได้หรือไม่ ขายยาปริมาณมากๆให้กับคลินิกพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้หรือไม่ ตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม 2540 ข้อ5. เภสัชกรต้องส่งมอบยาด้วยตนเองและให้คำปรึกษาด้านยาแก่ผู้ป่วย ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการอนุญาตและต่อใบอนุญาตร้านขายยาแผนปัจจุบันที่ยังอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกา ซึ่งจะออกประกาศว่าด้วยวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมชุมชนในกรณีขายส่ง ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ซื้อทุกรายว่าเป็นผู้รับอนุญาตขายยาและหรือสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย ร่างข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมด้านเภสัชกรรมชุมชน (พศ........) กำหนดว่าไม่ควรขายยาคราวละมากๆให้ผู้ป่วย 1 ราย สรุปมาตรการในการควบคุม กองควบคุมวัตถุเสพติด มีวิสัยทัศน์ใฝนเรื่องยาเสพติดให้โทษที่มีผลใช้ในทางการแพทย์ ให้มีเพียงพอสำหรับใช้เพื่อบำบัดโรคและไม่รั่วไหล จึงต้องมีการควบคุมติดตามและมีรายงานที่มาที่ไปที่จะตอบโจทย์สังคมได้ 1. มาตรการในการควบคุมสารตั้งต้น ทางเลือก ไม่เพิ่ม โควต้าการใช้ หรือลดลงถ้ายังควบคุมไม่ได้ 2. ระบุกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด วิเคราะห์กลุ่มเสียงจากรายงานการขาย วิเคราะห์กลุ่มเสี่ยงจากใบสั่งซื้อและต้องมีรายชื่อเภสัชกรกำกับทุกครั้ง 3. มาตรการจำกัดช่องทางการจำหน่ายยา สำหรับมาตรการที่จะใช้ในร้านยา ทั้งนี้เนื่องจากใบอนุญาตยังไม่มีการแยกค้าส่ง ค้าปลีก ซึ่งอาจจะรอกฎกระทรวงฉบับใหม่ ขณะนี้ร้านยาที่สั่งซื้อจากผู้แทนจำหน่าย อาจจะต้องมีการตรวจสอบประเภทใบอนุญาต มีการกำหนดการบันทึกหรือทำบัญชีการจ่ายยาประเภทนี้เมื่อจ่ายมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนด เภสัชกรต้องเป็นผู้ส่งมอบเอง ผู้ค้าส่งต้องทำบัญชีซื้อและขาย และขายได้เฉพาะผู้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งจะมีการระดมสมองกันอีกครั้ง ร้านยาที่มีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมากควรมีการทำบัญชีที่ถูกต้องเก็บไว้ ณ สถานปฏิบัติการเพื่อชี้แจงเมื่อถูกตรวจสอบ หรืออาจมีการจำกัดการขายยานี้เฉพาะในร้านยาคุณภาพ และต้องทำประวัติผู้ป่วย ซึ่งกระทรวงจะประกาศอีกครั้ง ในขณะนี้ ขอความร่วมมือร้านยาในการกระจายข่าวและร่วมกันป้องกันโดยการไม่ขายยานี้ให้กับผู้ชื้อลักษณะดังต่อไปนี้ 1. ขอซื้อยานี้ครั้งละมากๆเกินกว่าการใช้ในคราวเดียวที่มีอาการ 2. ไม่เกี่ยงราคาและยี่ห้อ 3. จ่ายเป็นเงินสด 4. ไม่แสดงตนหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อ 5. มาลำเลียงเองเพื่อปิดบังปลายทาง ร้านยาควรทำบัญชีการซื้อขายยาสูตรนี้ที่เป็นจริงและสามารถชี้แจงได้ และไม่ควรโชว์ยานี้หน้าร้านในปริมาณมากๆ บันทึกโดย ภญ.ช้องมาศ นิติศฤงคาริน 15/8/2551 | |
ผู้ตั้งกระทู้ Admin :: วันที่ลงประกาศ 2008-09-15 09:44:48 IP : 222.123.123.26 |
Visitors : 635292 |